ประโยชน์ของระบบแพทย์ทางไกล (Telehealth) ในการดูแลลูกค้าและสัตว์เลี้ยงในปี 2025
นับตั้งแต่การระบาดของไวรัส Covid-19 เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 2562 โลกก็ได้เข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจและบริการด้านสุขภาพ ที่จำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ การดำเนินธุรกิจในรูปแบบ New Normal จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับภาคธุรกิจ Healthcare และการให้บริการสุขภาพสัตว์โดยเฉพาะ โรงพยาบาลสัตว์และคลินิกต้องหาแนวทางใหม่ในการดูแลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงความปลอดภัย ลดความแออัด และเว้นระยะห่างทางสังคม หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ได้รับความนิยมและกลายเป็นมาตรฐานใหม่คือ แพทย์ทางไกล (Telehealth หรือ Telemedicine)
ในปี 2025 ระบบ Telehealth ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูแลสุขภาพทั้งคนและสัตว์อย่างครอบคลุมและยั่งยืน มาดูกันว่าการนำ แพทย์ทางไกล มาใช้ในโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกมีประโยชน์อย่างไรในมุมมองต่างๆ
🔹 มุมมองของลูกค้าและเจ้าของสัตว์เลี้ยง
-
เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาเบื้องต้น
ลูกค้าสามารถรับคำปรึกษาเบื้องต้นจากสัตวแพทย์ได้ทันทีโดยไม่ต้องเดินทาง ช่วยให้การวินิจฉัยเบื้องต้นรวดเร็ว และสามารถตัดสินใจได้ว่าควรเดินทางมาพบแพทย์หรือไม่
-
ลดต้นทุนเวลาและค่าใช้จ่าย
การไม่ต้องเดินทางมาที่คลินิกช่วยประหยัดค่าเดินทาง ลดเวลาการหยุดงาน และลดภาระในการพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาตรวจในกรณีที่อาการไม่รุนแรง
-
การเข้าถึงการรักษาที่กว้างขึ้น
สำหรับลูกค้าในพื้นที่ห่างไกล ระบบ Telehealth ช่วยให้สามารถรับการดูแลจากสัตวแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญได้ โดยไม่จำกัดเฉพาะคลินิกใกล้บ้านอีกต่อไป
-
ต้นทุนการรักษาที่ลดลง
หากอาการของสัตว์เลี้ยงไม่รุนแรง การรักษาผ่านระบบออนไลน์จะใช้เวลาน้อยลงและมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการเข้าพบที่โรงพยาบาลโดยตรง
-
ความสะดวกในการติดตามผล
เจ้าของสัตว์เลี้ยงสามารถปรึกษาติดตามอาการได้ง่ายและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
🔹 มุมมองของคลินิก โรงพยาบาลสัตว์ และสัตวแพทย์
-
พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี (Upskill)
การใช้งาน Telehealth ช่วยให้สัตวแพทย์และทีมงานมีโอกาสพัฒนาทักษะใหม่ในด้านเทคโนโลยี การสื่อสาร และการให้บริการทางไกล
-
ลดอัตราการยกเลิกนัดหมาย
เนื่องจากลูกค้าเข้าถึงการปรึกษาได้ง่ายขึ้น ทำให้อัตราการขาดนัดลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าไม่ต้องออกจากบ้าน
-
ขยายฐานลูกค้าแบบไร้พรมแดน
Telehealth ช่วยให้คลินิกสามารถให้บริการนอกพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เดิมได้ เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และขยายฐานลูกค้า
-
ลดต้นทุนหลังการรักษา
เช่น ลดความจำเป็นในการใช้ห้องฉุกเฉิน ลดเวลาการใช้ทรัพยากรสถานที่ รวมถึงช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ในการจัดการนัดหมาย
-
สร้างความยืดหยุ่นในการให้บริการ
สามารถบริหารเวลาระหว่างผู้ป่วยที่มาพบจริงและผู้ป่วยที่ใช้บริการออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการแออัด และเพิ่มคุณภาพของการดูแล
🔹 มุมมองของสังคมโดยรวม
-
เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ
ระบบ Telehealth ช่วยให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเวลาฉุกเฉินหรือในพื้นที่ที่ขาดแคลนแพทย์
-
ลดภาระของภาครัฐ
เมื่อประชาชนหันมาใช้บริการทางการแพทย์ทางไกลมากขึ้น จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปยังสถานพยาบาล ช่วยแบ่งเบาภาระของระบบสาธารณสุข
-
ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม่
การเติบโตของ Telehealth นำไปสู่การพัฒนาแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน และเทคโนโลยีสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง สร้างงานใหม่และกระตุ้นเศรษฐกิจด้านดิจิทัล
-
เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูประบบสาธารณสุข (Healthcare Reform)
ระบบแพทย์ทางไกลจะกลายเป็นพื้นฐานในการพัฒนานโยบายสาธารณสุขใหม่ของประเทศ เพิ่มความเสมอภาคและประสิทธิภาพของการให้บริการ
Vettale กับการผสาน Telehealth เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงในปี 2025
Vettale คือระบบบริหารโรงพยาบาลสัตว์ออนไลน์ที่มองเห็นถึงความสำคัญของ แพทย์ทางไกล และได้นำระบบ Telehealth เข้ามาเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้การดูแลสัตว์เลี้ยงในปี 2025 เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ด้วยระบบที่สามารถให้คำปรึกษาผ่านวิดีโอคอลล์ จัดเก็บข้อมูลประวัติสุขภาพผ่านคลาวด์ และเชื่อมต่อกับระบบนัดหมายออนไลน์ Vettale ช่วยให้คลินิกและโรงพยาบาลสัตว์สามารถให้บริการทางไกลได้อย่างมืออาชีพ ตอบโจทย์ทั้งเจ้าของสัตว์เลี้ยงและทีมสัตวแพทย์ในยุคดิจิทัล
สรุป
ในปี 2025 ระบบ แพทย์ทางไกล (Telehealth) ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ชั่วคราว แต่กลายเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างการดูแลสุขภาพในทุกระดับ ทั้งคนและสัตว์ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ร่วมกับระบบบริหารโรงพยาบาลสัตว์ เช่น Vettale จึงเป็นการยกระดับการให้บริการที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์วิถีชีวิตในยุคใหม่อย่างแท้จริง